13 สิงหาคม 2555

พังทลายแล้ว พังทลายเล่า



1
เข้าใจได้ไม่ยากว่าข้อเท็จจริงของมนุษย์แบบโลกย์ๆ ก็คือ ชีวิตมีทั้งรัก-ชัง, สมหวัง-ผิดหวัง, ดีใจ-เสียใจ, ได้รับมา-ต้องเสียไป ฯลฯ

ส่วนข้อเท็จจริงของมนุษย์ที่เข้าใจในธรรม เข้าใจสรรพสิ่ง เขาก็คงแทบไม่ทุกข์โศกกับความเป็นไปต่างๆ แทบจะหมดสิ้นความเขลา ความเศร้า ความงี่เง่าต่างๆ นาๆ กระทั่งดำเนินชีวิตไปด้วยความสงบ เบิกบาน และมองสิ่งที่ผ่านเข้ามาด้วยสายตาของผู้เข้าอกเข้าใจ

อย่างน้อยๆ ถ้าสามารถประคับประคองเรื่องราวไกลออกไปด้วยความรอบคอบ จิตใจอันสัตย์ซื่อ เจตนาอันบริสุทธิ์ กระทั่งสิ่งต่างๆ ค่อยๆ เคลื่อนมาตรงหน้า ใครๆ ก็คงหวังว่าการมุ่งสร้างแต่เหตุดีๆ จะต้องดลบันดาลให้สิ่งที่เหล่านั้นเป็นไปดังหวัง หรือไม่ก็อย่าผิดหวังเลย

ไม่มีใครหรอก ที่อยากประสบพบเจอกับการสูญเสีย มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ที่เขาจะต้องมาเจอกับความเลวร้าย

เราอยู่กับความเข้าใจเหล่านี้มาตลอด

2
หนังสือธรรมะเกี่ยวพันกับผู้เข้าใจธรรมะ การอ่านหนังสือธรรมะน่าจะช่วยให้ชีวิตหลังจากนั้นเบาโล่งโปร่งสบาย เราเข้าใจในเชิงความเป็นเหตุเป็นผล กระทั่งเข้าใจแบบดื่มด่ำกับเหตุการณ์ยากคาดเดาที่กำลังจะเกิดขึ้นทีละอย่างทีละสิ่ง

มากบ้างน้อยบ้าง เมื่อเข้าใจ วางเฉย คลี่คลาย มากขึ้นๆ ปัญหาเหล่านั้นก็คงหมดไป

'เมื่อทุกอย่างพังทลาย' โดยเพม่า โชดรัน เป็นหนังสือธรรมะที่ยุติความเข้าใจนั้นของฉันจนแทบหมดสิ้น ปัญหาที่เคยหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้จางไปเลยแม้แต่น้อย มันยังอยู่ครบถ้วน แถมคำพูดในหนังสือก็แทบจะขับไสให้ฉันกลับไปอยู่กับความโกลาหลนั้นอีกรอบ

ให้ตายสิ ไม่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเลย หนังสือธรรมะเล่มนี้ไม่มีเค้าลางของการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเอาเสียเลย

ฉันลองเดินไปยังสวนอักษรช้าๆ แล้วจึงเริ่มรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เพม่าบอกว่านี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งคนฟุ้งซ่านในธรรม แต่นี่เป็น 'หนทางของนักรบ' ใช่...หนทางธรรมดามากๆ นี่แหละ คือ 'หนทางแห่งจิตวิญญาณ'

หนังสือฟาดฉันอย่างจังด้วยการบอกว่า ...ต้องเลิกคิดว่าหากเข้าใจในธรรม ชีวิตในวันต่อๆ ไปจะหมดสิ้นปัญหา ธรรมทำได้เพียงพาเราเข้าไปสนิทสนมกับปัญหา และเราเองนั่นแหละที่จะหาทางอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบไม่เอาเป็นเอาตายซึ่งกันและกัน...

ปัญหามีอยู่ทุกหนแห่ง และชีวิตก็พร้อมพังทลายได้ทุกวินาที

3
ชีวิต 'นักรบ' เพิ่งเริ่มต้น

นักรบที่มีชั้นเชิงในการใช้อาวุธ ก็หาได้การันตีว่าร่างกายจะปราศจากริ้วรอย ตราบเท่าที่เขายังเป็นนักรบ และยังต้องออกรบอยู่ทุกเวลา

คุณมีสิทธิที่จะหลบหลีกความโกลาหลได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าความโกลาหลนั้นจะไม่เดินทางมาหาคุณ

ต่อให้คุณฝึกฝน คุณคล่องแคล่ว คุณเข้าขั้นนักรบผู้แข็งแกร่งและมีปัญญา แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องราวบนสนามรบ

บนสนามรบไม่เคยการันตีความปลอดภัยแก่ผู้ใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น