30 กันยายน 2555

เพียงผู้เดียว

ถามว่าความฝันคืออะไร
...ไม่มี

ถามว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร
...ไม่มี

ถามว่าวันนี้อยู่เพื่ออะไร
...ฉันไม่อยากอยู่ ฉันเหนื่อย ฉันหน่าย ฉันผิดหวังกับโลก กับผู้คน กับสังคม กับตัวเอง
แต่ในเมื่อฉันไม่ประสงค์จะยุติชีวิตตัวเองโดยตั้งใจ ฉันจึงต้องอยู่ต่อไป

แม้จะสำรวจเจตนาตัวเองอยู่เสมอ ว่าชีวิตที่เหลือไม่ปรารถนามุ่งร้ายต่อผู้ใด ไม่แก้แค้น ไม่เอาคืน ไม่เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ยอมได้ก็ยอม ยอมไม่ได้ก็ขออภัย ทุกๆ วัน ฉันพยายามอย่างเต็มที่เต็มแรง แต่พฤติกรรมเคยชินของฉัน ก็ยังทำร้ายผู้คนในแห่งอยู่ร่ำไป

อยู่กับใครก็ทะเลาะ คุยกับใครก็โวยวาย เจอหน้าใครก็มีปัญหา ตั้งแต่เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน พี่น้องหลากกลุ่ม ผู้ใหญ่ทุกเพศวัย ฉันล้วนกราดปะทะไปเสียทุกคน

หดหู่ เสียใจ ผิดหวังกับตัวเอง ไม่อยากทำให้ใครมีปัญหากับท่าทีหยาบคายของตัวเองแม้เพียงสักครั้งเดียว

บางที... ฉันคงต้องลดปฏิสัมพันธ์กับทุกคนให้เหลือน้อยที่สุด มนุษย์แบบฉันคงถูกส่งมาให้อยู่คนเดียว ถึงจะปลอดภัยต่อคนอื่นและตัวเองมากที่สุด

28 กันยายน 2555

ค่ำคืนแห่งห่าฝน

เสียงฝนห่าใหญ่ปลุกฉันให้ตื่นขึ้น…

น้อยครั้งเหลือเกินที่ค่ำคืนจะขาดตอนจากเสียงสายฝน ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์หดหู่อย่างบอกไม่ถูก จะว่าเศร้าโศกก็ไม่ใช่ จะว่าเสียใจก็ไม่ใช่อีก อธิบายความรู้สึกเป็นเหตุและผลได้ไม่ถูกนัก ว่าเพราะอะไรการหลับนอนที่ขาดตอนจึงเกิดขึ้น จนเมื่อนั่งให้อะไรๆ นิ่งขึ้น ฉันก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงผู้คนที่เผชิญสายฝนเดียวกันนี้ในรูปรอยทีต่างออกไปขึ้นมาอย่างสุดใจ

บ้านเก่าๆ ของฉัน เต็มที่สายฝนก็สาดเข้ามาตามร่องหน้าต่างประตู หลังคาเก่าๆ ก็อาจส่งเสียงดังไปบ้าง ฟ้าร้องเสียงสนั่นก็อาจแทรกตัวตามวัสดุผุกร่อนเข้ามารบกวนใจ

แต่ที่แน่ชัดยิ่งกว่า คือ ไอเย็นของสายฝนที่สร้างความปรีดาให้คนกำลังนอน

ก็ไม่ได้เป็นคนดีมีเมตตาอะไรขนาดนั้น แต่เสียงฝนในปริมาณหนักหนาขนาดนี้  คนที่น่าเป็นห่วงมีมากมายเหลือเกิน ตั้งแต่ผู้คนที่บ้านหลักคาผุรั่ว บ้านที่รอลุ้นว่าน้ำจะเข้าไหม และคนที่บ้านเป็นหลังๆ ไม่เคยมีอยู่จริง -- พวกเขาจะยากลำบากแค่ไหน

บางทีนี่อาจเรียกว่า ‘ร่วมทุกข์ร่วมสุข’ เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างมาก ในเวลาฝนห่าใหญ่ไม่ลืมหูลืมตาเช่นนี้ ฉันเห็นใจผู้คนเหล่านั้นจนสะเทือนใจ และหวนนึกถึงชีวิตที่ตัวเองเป็นอยู่เหลือเกิน

ดีแค่ไหนแล้วที่เกิดมาในบ้านเป็นหลังๆ ดีแค่ไหนแล้วที่มีพ่อแม่คอยดูแลห่วงใย ดีแค่ไหนแล้วที่มีอาหารที่รังนอนให้กินอิ่นนอนหลับ ดีแค่ไหนแล้วที่สายฝนห่าใหญ่คือไอเย็นให้ผ่อนคาย ดีแค่ไหนแล้วที่มีวันนี้

หวังว่าความรู้สึกเช่นนี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ และตลอดไป และหวังอีกเช่นกันที่วันต่อๆ ไป ฉันจะแบ่งเบาความทุกข์ของพวกเขาได้บ้าง ไม่มาก ก็น้อย หรือเพียงนิดก็ยังดี

ตีสอง สามสิบสองนาที
ขณะที่ความหดหู่ปกคลุม